Cover431SamadhiBudhTh

” ได้พูดเรื่องสมาธิ ให้เห็นความหมาย คุณประโยชน์และการใช้ที่ถูกต้องตามหลักการของพระพุทธศาสนา พร้อมทั้งการใช้เพื่อประโยชน์อย่างอื่นที่ข้างเคียง ซึ่งถ้าเรารู้เท่าทันแล้ว แม้แต่ประโยชน์ข้างเคียงก็เอามาใช้ได้หมด ไม่ใช่หมายความว่าจะไม่ให้โยมใช้

แม้แต่เป็น “ตัวกล่อม” ก็ใช้ได้แต่ใช้ได้ในขอบเขตที่ว่า
อย่าให้เกิดความประมาท
อย่าให้มันดึงเราให้หยุดอยู่นิ่ง
แต่ใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าชั่วคราวผ่านไป
เหมือนอย่างใช้ยานอนหลับ แก้โรคได้แต่อย่าให้ติด จะใช้เพื่อ “พลังจิต” ก็ใช้ได้ อย่างน้อยรวมจิตไม่ให้มันฟุ้งซ่านไปก็ยังดี

แต่อย่าลืมก้าวต่อไปในการใช้ประโยชน์ที่แท้ คือ ประโยชน์ตามจุดมุ่งหมายของพุทธศาสนาที่จะกําจัดกิเลส และให้รู้เท่าทันความจริงของสิ่งทั้งหลาย
ให้รู้ถึงความที่สิ่งทั้งหลายเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อย่างไร
แล้วรู้จักโลกและชีวิตตามเป็นจริง จนกระทั่งวางจิตวางใจต่อชีวิตและโลกได้ถูกต้อง
เป็นจิตสงบ ราบเรียบ โปร่งโล่ง ผ่องใส เป็นอิสระ เพราะไม่มีกิเลส ไม่มีอะไร หรือความเป็นไปใดๆ ในโลก ที่จะมาทําให้จิตหวั่นไหวได้ เพราะปัญญาเขาถึงความจริง แล้วดําเนินชีวิตเป็นอยู่ด้วยปัญญา ที่รู้ และทําตรงเหตุปัจจัย

อันนี้คือสิ่งที่เราต้องการ ซึ่งจะสําเร็จด้วยการที่มาปฏิบัติ ตามกระบวนการส่งต่อของไตรสิกขา ”

(Cr. จากหนังสือเรื่อง ” สมาธิแบบพุทธ ”
โดย พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต)
พิมพ์ครั้งที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ หน้า ๔๖)

ดาวน์โหลด ฉบับเต็มได้ที่
http://www.watnyanaves.net/uploads/File/books/pdf/samadhi_in_buddhism.pdf

หรือขอรับหนังสือได้ (ฟรี) ที่วัดญาณเวศกวัน
02-482-7365, 02-482-7375 ต่อ 106, 108

Cover431SamadhiBudhTh